
คนไทยส่วนมากจะคุ้นเคยกับบทท่องจำ ก ไก่ ฉบับ ประชาช่างที่ท่องว่า
+++++++++กไก่ ของประเทศไทย ฉบับ ประชาช่างก เอ๋ย ก ไก่ /ข ไข่ ในเล้า / ฃ ฃวด ของเรา / ค ควาย เข้านา
ฅ ฅน ขึงขัง / ฆ ระฆัง ข้างฝา /ง งู ใจกล้า / จ จาน ใช้ดี
ฉ ฉิ่ง ตีดัง / ช ช้าง วิ่งหนี / ซ โซ่ ล่ามที / ฌ กะเฌอ คู่กัน
ญ หญิง โสภา / ฎ ชฎา สวมพลัน / ฏ ปฏัก หุนหัน / ฐ ฐาน เข้ามารองฑ นางมณโฑ หน้าขาว / ฒ ผู้เฒ่า เดินย่อง / ณ เณรไม่มอง / ด เด็ก ต้องนิมนต์
ต เต่า หลังตุง / ถ ถุง แบกขน / ท ทหาร อดทน / ธ ธง คนนิยม
น หนูขวักไขว่/ บ ใบไม้ ทับถม /ป ปลา ตากลม/ ผ ผึ้งทำรัง
ฝ ฝา ทนทาน/ พ พาน วางตั้ง/ ฟ ฟัน สะอาดจัง/ ภ สำเภา กางใบ
ม ม้า คึกคัก / ย ยักษ์ เขี้ยวใหญ่ / ร เรือ พายไป/ ล ลิง ไต่ราว
ว แหวน ลงยา / ศ ศาลาเงียบเหงา / ษ ฤษีหนวดยาว / ส เสือ ดาวคะนอง
ห หีบใส่ผ้า / ฬ จุฬา ท่าผยอง / อ อ่าง เนืองนอง / ฮ นกฮูกตาโต
ประเทศลาว มีภาษาและตัวอักษรเป็นของตนเองเช่นเดียวกับ
ประเทศลาว มีภาษาและตัวอักษรเป็นของตนเองเช่นเดียวกับ
ไทยลาวก็มีบทท่องจำ ก-ฮ (ก ไก่ ถึง ฮ เฮือน)





ก ไก่ / ข ไข่ / ค ควาย / ง งัว / จ จอก (แก้ว)
ส เสือ / ซ ซ้าง (ช้าง) / ญ ญุง (ยุง) / ด เด็ก
ต ตา / ถ ถง(ถุง) / ท ทง (ธง) / น นก
บ เบ้ (แพะ) / ป ปา (ปลา) / ผ เผิ้ง (ผึ้ง) / ฝ ฝนพ พู (ภู) / ฟ ไฟ / ม แมว / ย ยา
ล ลิง / ว วี (พัด) / ห ห่าน / อ โอ่ง / ฮ เฮือน (บ้าน)แถมท้ายอีกนิดนึง เคยอ่านเจอภาษาลาวบางคำ บางประโยค ที่ใช้ภาษาอย่างเรียบง่ายเข้าใจง่าย ใช้คำได้ตรงเรียกว่ามองเห็นภาพได้เลย จึงขอนำมาลงให้อ่านกันและด้วยความเคารพเป็นอย่างยิ่ง ผู้เขียนมิได้มีเจตนาลบหลู่ ทั้งภาษาและเจ้าของภาษาแต่อย่างใด
******ภาษาไทย *************ภาษาลาว
ไฟจราจรสีแดง****************ไฟอำนาจ(เราต้องหยุด)
ไฟจราจรสีเหลือง************* ไฟวัดดวง / ไฟลังเล
ไฟจราจรสีเขียว*************** ไฟอิสระ / ไฟสลายตัว
ผ้าเช็ดหน้า*******************ผ้าอนามัย
ผ้าอนามัย********************ผ้ายันต์กันโลหิต
ห้องคลอด********************ห้องประสูติ
ห้องฉุกเฉิน*******************ห้องมรสุม
ห้องผ่าตัด********************ห้องปาด
ห้องผ่าตัด********************ห้องปาด
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด**********ผู้บัญชาการทหารสูงลิ่ว
ค่าตั๋ว(บัตรผ่านต่างๆ) ***********เสียค่าปี้นางงาม********************** นางสังขาร
นางงามตกรอบ 20 คนสุดท้าย ****นางไม่เจียมสังขาร
นางงามตกรอบ 5 คนสุดท้าย******นางไม่เจียมกะลาหัวผัว /เมียหลวง******************ผัว /เมียถาวร
ผัว /เมียน้อย*******************ผัว /เมียบุญธรรม
ซุปเปอร์แมน(ภาพยนตร์)**********บักอึดถลาลม
รักจริงๆให้ดิ้นตาย(ภาพยนตร์)****** ฮักคักคัก ซักแหงกๆหนูน้อยพเนจร****************** บักหำน้อยตุหรัดตุเหร่(ทุลักทุเล)
จูราสสิคพาร์ค(ภาพยนตร์)********* กะปอมพยศ
จูราสสิคพาร์ค(ภาพยนตร์)********* กะปอมพยศ
ไททานิค(ภาพยนตร์) *************ชู้รักเรือล่ม
FACE OFF ********************หน้าข้อยอยู่ปู๊น หน้าเปิ้นอยู่นี่
SPEED************************เบรก บ่ อยู่
เชือดเชือดนิ่มนิ่ม****************ปาดปาดเนิบเนิบ
ร้านถ่ายรูป********************* ฮ้านแหกตาถ่ายรูปเดี่ยว******************** แหกตา
ถ่ายรูปหมู่**********************แหกตาสามัคคี
ระวัง (เตรียมตัว-แข่งกีฬา)******** โก่งดาก
เข้าที่(แข่งกีฬา) *****************เข้าซ่อง
ลูกฟุตบอล********************* ลูกเตะบาน
ลูกบาสเก็ตบอล***************** ลูกบานบ่วง
หลอดกาแฟ******************** ท่อดูด
ขนมปัง************************ ข้าวจี่
หลอดกาแฟ******************** ท่อดูด
ขนมปัง************************ ข้าวจี่
น้ำแข็ง************************ น้ำก้อน
หลอดฟลูออเรสเซนส์*************ข้าวหลามแจ้งรถไฟ************************** ห้องแถวไหล
เลี้ยวซ้าย/เลี้ยวขวา************** แหกซ้าย/แหกขัว
อร่อย************************* แซบ JOHNY WALKER **************บักจอนย่าง
กระทรวงการต่างประเทศ***********กระทรวงพัวพันภายนอก
น้ำพุ***************************น้ำแตก
กระทรวงการต่างประเทศ***********กระทรวงพัวพันภายนอก
น้ำพุ***************************น้ำแตก
กกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกกก กกกกกกกกกกกกกกกก
อาจารย์ไก่
ถ้าคนเราเปรียบเหมือนไก่ให้ดูดี มันไม่มีนอนไม่หลับไม่ปวดหัว
ไม่มีโรคประสาทประจำตัว โรคจิตไม่มากลั้วกับไก่น้อย
คนในโลกกินยาเป็นตันตัน พวกไก่มันไม่ต้องกินสักแต่น้อย
หลับสนิทจิตสบายร้อยทั้งร้อย รู้สึกน้อยแห้งน้ำใจอายไก่เวย
ได้เป็นคนหรือจึงได้นอนไม่หลับ ควรจะนับว่าเป็นบาปหรือบุญเหวย
มีธรรมะกันเสียนะอย่าละเลย อยู่เสบยไม่ละอายแก่ไก่มัน
คำกลอน ก ไก่
พระเทพวิสุทธิเมธี ป.ธ.9 (เจ้าคุณเที่ยง) เจ้าคณะภาค 11 วัดระฆังโฆสิตาราม
๐ เอ๊กอิเอเอ้กเสียงนี้มีความหมาย เป็นจุดขายเงินตรามหาศาล
มันคือไก่ขุมทองของรัฐบาล ยอดอาหารคู่โลกโภคภัณฑ์
กะต๊ากกะต๊ากแซ่เสียงแม่ไก่ ยามออกไข่ถ่ายฟองเป็นของขวัญ
ให้เราท่านทั่วถิ่นได้กินกัน รสนิ่มมันทอดปรุงบำรุงพลัง
ไก่ธุรกิจทำเงินเกินคาดหมาย เรื่องซื้อขายกำไรสมใจหวัง
ปลูกโรงไก่เล้าไก่เต็มไร่นา เป็นสินค้าขายออกทั้งนอกใน
ต่างคนต่างอยากรวยฉวยโอกาส จิตหมายมาดมุ่งรับทรัพย์ลื่นไหล
เงินทองสะดวกโดยโกยกำไร เศรษฐีไก่สมอยากบ่ยากเย็น
บางคนโง่ซื่อบื้อเรื่องซื้อขาย พบฉิบหายฉับพลันทันตาเห็น
จนเพราะการค้าน้ำตากระเด็น ช้ำลำเค็ญร้องว่าไก่ฆ่ากู
ไข้หวัดนกระบาดอนาถจิต ไก่เกิดติดโรคร้ายตายจมหู
โรคแลคนรุมล่าฆ่าวอดวาย ทารุณร้ายสุดอนาถชาติไก่เอย
ไก่กับคนผูกพันกันนานมา ครั้งปู่ย่าเราท่านขานเฉลย
เห็นไก่อยู่กับไก่ไม่ห่างเลย ทุกคนเคยเลี้ยงไก่กินไข่แดง
ไก่เป็นอาหารเป็นเพื่อนเตือนให้คิด ขันสะกิดรับสุรีย์ทอสีแสง
บ้านหรือวัดเซ็งแซ่แต่ละวัน สัตว์คู่ขวัญชีวิตจิตวิญญาณ
๐ มันมองเราเรามองมันด้วยหรรษา คนเมตตาหยิบโปรยโรยอาหาร
สันนิวาสเป็นญาติแต่ชาติก่อน อดีตย้อนผูกใจใฝ่ปรารถนา
คนฆ่าไก่กินไก่เกิดเป็นไก่ บาปล่าไล่สู่ปูมภูมิสยอง
เกิดตายเท่าขนไก่ไร้ต่อรอง ฆ่าหมูต้องเป็นหมูคู่เวรกัน
เกิดเป็นหมูหมากาไก่ให้ประโยชน์ แต่ทุกข์โทษคุกคามนามรูปขันธ์
ขาดสติยับยั้งพลังเกิน งมงายเพลินโลกแล่นแดนอบาย…….
๐ จุติสู่ภพภูมิปูมนรก ดุจดาวตกพุ่งลับแสงดับหาย
มืดมิดมหัศจรรย์สุดบรรยาย ยมทูตร้ายล้อมรุมอุ้มแห่ไป
มรสุมเวรกรรมกระหน่ำหนัก ภูติผีทักหมาเห่าเขย่าขวัญ
วิญญาณไก่เป็ดห่านขานพร้อมกัน เซ็งแซ่ลั่นโจทก์จี้ทวงหนี้บุญ
ญาติปู่ย่าตายายที่ตายไป เกิดเป็นไก่หมาหมูอยู่ใต้ถุน
ผลวิบากกรรมโหดโทษทารุณ ลูกหลานขุ่นฆ่าขายหมายเงินทอง
๐ อันเวรกรรมทำไว้ในไตรจักร์ เบาหรือหนักพอกพูนคูณสนอง
ปราศจากมิตรศัตรูผู้ปกครอง คอยจับจ้องล้างผลาญสถานเดียว
กรรมที่สร้างไว้เสร็จสำเร็จผล ควบคุมคนผู้สร้างอย่างแน่นเหนียว
อยู่ทิศไหน?เคียงข้างไม่ห่างเชียว เกาะกุมเกี่ยวแสดงผลให้ยลยิน
พลังเวรพลังกรรมทรงอำนาจ ไม่คลาคลาดตามติดนิจสิน
ถึงเวลารุกถล่มร่างจมดิน ไม่สุดสิ้นชาติภพจบไม่เป็น
(จาก นสพ.ธรรมะ สาส์นสวรรค์ ประจำวันที่ 1-30 เมษายน 2547)
๐ เอ๊กอิเอเอ้กเสียงนี้มีความหมาย เป็นจุดขายเงินตรามหาศาล
มันคือไก่ขุมทองของรัฐบาล ยอดอาหารคู่โลกโภคภัณฑ์
กะต๊ากกะต๊ากแซ่เสียงแม่ไก่ ยามออกไข่ถ่ายฟองเป็นของขวัญ
ให้เราท่านทั่วถิ่นได้กินกัน รสนิ่มมันทอดปรุงบำรุงพลัง
ไก่ธุรกิจทำเงินเกินคาดหมาย เรื่องซื้อขายกำไรสมใจหวัง
เสี่ยโกเฮงซีพีเศรษฐีดัง บ้านดุจวังเพราะขายไก่ได้ราคา
๐ เป็นเศรษฐีเพราะไก่สมใจนึก ทุกคนคึกอยากรวยด้วยตัณหาปลูกโรงไก่เล้าไก่เต็มไร่นา เป็นสินค้าขายออกทั้งนอกใน
ต่างคนต่างอยากรวยฉวยโอกาส จิตหมายมาดมุ่งรับทรัพย์ลื่นไหล
เงินทองสะดวกโดยโกยกำไร เศรษฐีไก่สมอยากบ่ยากเย็น
บางคนโง่ซื่อบื้อเรื่องซื้อขาย พบฉิบหายฉับพลันทันตาเห็น
จนเพราะการค้าน้ำตากระเด็น ช้ำลำเค็ญร้องว่าไก่ฆ่ากู
ไข้หวัดนกระบาดอนาถจิต ไก่เกิดติดโรคร้ายตายจมหู
ถูกฝังเผาเป็นล้านบานตะกู เป็ดห่านหมูเนื้ออร่อยพลอยล้มตาย
๐ โรคห่าล่าชีวิตให้ปลิดปลด ไก่กำสรดอยู่ไปไร้ความหมายโรคแลคนรุมล่าฆ่าวอดวาย ทารุณร้ายสุดอนาถชาติไก่เอย
ไก่กับคนผูกพันกันนานมา ครั้งปู่ย่าเราท่านขานเฉลย
เห็นไก่อยู่กับไก่ไม่ห่างเลย ทุกคนเคยเลี้ยงไก่กินไข่แดง
ไก่เป็นอาหารเป็นเพื่อนเตือนให้คิด ขันสะกิดรับสุรีย์ทอสีแสง
จ้องดูเราดุจแม่พ่อคอตะแคง คล้ายชี้แจงความเป็นมิตรนิจนิรันดร์
อรุณรุ่งเรืองรองท้องฟ้าใส นกกาไก่เกาะกลุ่มชุมนุมขันบ้านหรือวัดเซ็งแซ่แต่ละวัน สัตว์คู่ขวัญชีวิตจิตวิญญาณ
๐ มันมองเราเรามองมันด้วยหรรษา คนเมตตาหยิบโปรยโรยอาหาร
มีของกินผลไม้ให้เป็นทาน ร้องเรียกขานคุ้นปากจากดวงใจ
สัตว์บ่เคยเป็นญาติกันนั้นบ่มี พระชินสีห์ชี้แจงแถลงไข
ภพภูมิแห่งสงสารเนิ่นนานไกล สัตว์เล็กใหญ่ล้วนญาติชาติผ่านมาสันนิวาสเป็นญาติแต่ชาติก่อน อดีตย้อนผูกใจใฝ่ปรารถนา
เกิดสำนึกมั่นหมายร่วมชายคา แรงตัณหาอยากหวังฝังรูปนาม
๐ ฆ่าเป็ดกินเป็ดตายเกิดเป็นเป็ด ผลชั่วเผล็ดร้องก๊าบบาปแห่หาม
เวรกรรมรุมประชิดรุกติดตาม คอยคุกคามเข่นฆ่าน้ำตานองคนฆ่าไก่กินไก่เกิดเป็นไก่ บาปล่าไล่สู่ปูมภูมิสยอง
เกิดตายเท่าขนไก่ไร้ต่อรอง ฆ่าหมูต้องเป็นหมูคู่เวรกัน
เกิดเป็นหมูหมากาไก่ให้ประโยชน์ แต่ทุกข์โทษคุกคามนามรูปขันธ์
ยิ่งเกิดยิ่งพอกโง่จมโลกันต์ บาปโมหันธ์มืดมิดปิดทางเดิน
สมองหมูหมากาไก่ไร้คุณภาพ แต่เอิบอาบด้วยคลื่นเบาตื้นเขินขาดสติยับยั้งพลังเกิน งมงายเพลินโลกแล่นแดนอบาย…….
๐ จุติสู่ภพภูมิปูมนรก ดุจดาวตกพุ่งลับแสงดับหาย
มืดมิดมหัศจรรย์สุดบรรยาย ยมทูตร้ายล้อมรุมอุ้มแห่ไป
ต้องทนทุกข์ทรมานเนิ่นนานช้า มิรู้ว่าสุดกู่อยู่หนไหน?
คุกนรกสุดสยองล้วนกองไฟ ร่างเผาไหม้เกิดใหม่ใช้โทษทัณฑ์มรสุมเวรกรรมกระหน่ำหนัก ภูติผีทักหมาเห่าเขย่าขวัญ
วิญญาณไก่เป็ดห่านขานพร้อมกัน เซ็งแซ่ลั่นโจทก์จี้ทวงหนี้บุญ
ญาติปู่ย่าตายายที่ตายไป เกิดเป็นไก่หมาหมูอยู่ใต้ถุน
ผลวิบากกรรมโหดโทษทารุณ ลูกหลานขุ่นฆ่าขายหมายเงินทอง
๐ อันเวรกรรมทำไว้ในไตรจักร์ เบาหรือหนักพอกพูนคูณสนอง
ปราศจากมิตรศัตรูผู้ปกครอง คอยจับจ้องล้างผลาญสถานเดียว
กรรมที่สร้างไว้เสร็จสำเร็จผล ควบคุมคนผู้สร้างอย่างแน่นเหนียว
อยู่ทิศไหน?เคียงข้างไม่ห่างเชียว เกาะกุมเกี่ยวแสดงผลให้ยลยิน
พลังเวรพลังกรรมทรงอำนาจ ไม่คลาคลาดตามติดนิจสิน
ถึงเวลารุกถล่มร่างจมดิน ไม่สุดสิ้นชาติภพจบไม่เป็น
ยุติคำกลอนเรื่องไก่ไว้เท่านี้ ขอน้องพี่ทั้งหลายคลายทุกข์เข็ญ
พ้นจากความอดอยากยากลำเค็ญ ได้พบเห็นพวกไก่ให้เมตตา ฯ…….(จาก นสพ.ธรรมะ สาส์นสวรรค์ ประจำวันที่ 1-30 เมษายน 2547)
นิทานธรรม ก ไก่
ไก่โต้งเสียงดี
ขโมยคนหนึ่งย่องเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง แต่ขโมยอะไรไม่ได้
พอดีเหลือบไปเห็นไก่โต้งตัวหนึ่ง จึงจับไก่ตัวนั้นติดมือมาหมายจะฆ่ากิน
ไก่โต้งร้องขอชีวิตจากขโมยว่า
โปรดไว้ชีวิตฉันเถิด ฉันเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ ทุก ๆ เช้า
ขโมยคนหนึ่งย่องเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง แต่ขโมยอะไรไม่ได้
พอดีเหลือบไปเห็นไก่โต้งตัวหนึ่ง จึงจับไก่ตัวนั้นติดมือมาหมายจะฆ่ากิน
ไก่โต้งร้องขอชีวิตจากขโมยว่า
โปรดไว้ชีวิตฉันเถิด ฉันเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ ทุก ๆ เช้า
ฉันจะขันปลุกมนุษย์ให้ตื่นขึ้นทำงาน
เจ้าหัวขโมยได้ยินไก่โต้งพูดเช่นนี้ ก็โกรธมาก กล่าวว่า
ก็เพราะแกปากโป้ง ชอบขันปลุกชาวบ้าน ฉันจึงขโมยอะไรไม่ได้นะสิ
เจ้าหัวขโมยได้ยินไก่โต้งพูดเช่นนี้ ก็โกรธมาก กล่าวว่า
ก็เพราะแกปากโป้ง ชอบขันปลุกชาวบ้าน ฉันจึงขโมยอะไรไม่ได้นะสิ
เพราะฉะนั้น ฉันจะต้องเชือดแกทิ้งเสีย
จาก หนังสือนิทานเตือนสติ
นิทานดาวลูกไก่
นิทานดาวลูกไก่ในตำนานไทยเล่าว่า มีตายายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในป่า วันหนึ่งมีพระธุดงค์ผ่านมา คิดจะหาอาหารไปถวาย แต่เนื่องจากอยู่ในป่าไม่มีอาหารดีๆ จึงหารือกันจะฆ่าไก่ที่เลี้ยงไว้เพื่อไปทำอาหารถวาย แม่ไก่ได้ยินก็สั่งเสียลูกไก่ทั้งหกตัวให้รักษาตัวให้ดี ตัวเองต้องแทนคุณตายายที่เลี้ยงดูมา เมื่อถึงเวลาตายายฆ่าแม่ไก่ ลูกไก่ก็กระโดดเข้าเตาไฟตายตามแม่ไปด้วย เทพยดาเห็นแก่ความกตัญญู จึงให้แม่ไก่และลูกไก่ทั้งหมดขึ้นไปเป็นดาวอยู่บนฟ้าเพื่อเตือนใจคน
สำนวนเกี่ยวกับไก่
ไก่เป็นสัตว์ที่คนคุ้นเคยมาช้านาน หากพิจารณาสำนวนในภาษาต่างๆ ทั่วโลกจะมีสำนวนที่เกี่ยวกับไก่อยู่ในภาษาต่างๆ ทุกภาษา ซึ่งให้แง่คิด สอนใจ เตือนใจ หรืออาจจะถึงขั้น 'เตะใจ' ใครบางคนได้ เรื่องของไก่จึงไม่ใช่เรื่องของไก่เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของคนเสียมากกว่า
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง - หมายถึงคนจะงามต้องอาศัยการแต่งด้วย
'ไก่ขัน' หรือ 'ไก่โห่' - แปลว่า เวลารุ่งสาง บางทีก็ใช้ว่า หัวไก่โห่ เช่นใช้ว่า 'ตื่นมาตั้งแต่ ไก่โห่' สำนวนนี้มีที่มาจากธรรมชาติของไก่ที่ต้องขันตั้งแต่ฟ้าเริ่มสาง
ไก่ขึ้นรัง' - วิธีเลี้ยงไก่ของคนไทยสมัยก่อน ปล่อยให้ไก่อยู่ตามพื้นดิน เดินหาอาหาร พอตกเย็นไก่ก็บินขึ้นไปนอนบนที่สูง ซึ่งอาจจะเป็นรังบนต้นไม้ ไก่ซึ่งถือแสงอาทิตย์เป็นสำคัญ เมื่อพลบค่ำ ก็สำนวน บินขึ้นรัง 'ไก่ขึ้นรัง' จึงหมายถึงเวลาพลบค่ำหรือย่ำค่ำ
เรื่องไก่กับการบอกเวลา ยังมีสำนวนที่มีที่มาจาก นิทานเชียงเมี่ยง หรือศรีธนญไชย ดังเช่น สำนวน
'มาก่อนไก่' หรือ 'เอาไก่ผูกก้นมา' - การมาสาย ในเรื่องศรีธนญไชยตื่นสาย มาเข้าเฝ้าไม่ทัน แต่ศรีธนญไชยกราบทูลว่าไม่ได้มาสาย แต่มา 'ก่อนไก่' แล้ว คือเอาไก่ผูกก้นลากตามมา เมื่อจะพูดถึงผู้มาสายจึงพูดว่า 'เอาไก่ผูกก้นมาหรือเปล่า'
สมภารกินไก่วัด - ได้หญิงในปกครองเป็นภรรยา
'ไก่กินข้าวเปลือก' - การกินสินบน โดยเปรียบว่าตราบใดที่ไก่กินข้าวเปลือก ตราบนั้นคน (บางอาชีพ) ก็ยังคงกินสินบนอยู่ตราบนั้น
ไก่บินไม่ตก - เป็นการกล่าวถึงบริเวณที่ปลูกบ้านกันอย่างหนาแน่นหลังคาบ้านแต่ละหลังชนกัน เกยกัน จนไก่ ซึ่งบินได้ในระยะสั้นๆ ก็ยังบินไม่ตก
'เป็ดขันประชันไก่' - สำนวนนี้เปรียบไก่กับเป็ดในแง่การขัน เป็ดโดยธรรมชาติขันไม่ได้ ถ้านำมาขันแข่งกับไก่ก็สู้ไม่ได้แน่นอน จึงเป็นสำนวนเปรียบเทียบว่าเมื่อไม่สามารถหาผู้ที่ดีมีความสามารถได้ก็ต้องเอาผู้ที่ด้อยหรือไม่มีความสามารถมาแทน หรือหมายความว่าเอาผู้ที่รู้ว่าด้อย ไม่มีความสามารถ ไม่เก่ง มาแข่งหรือประชันกับคนดีหรือคนมีความสามารถ เมื่อหาไก่ไม่ได้ก็ต้องใช้เป็ดแทน
'ปล่อยไก่' - แสดงความโง่เซ่อ เขลา เช่น 'ปล่อยไก่ตัว เบ้อเร่อ' คือ ทำเรื่องขายหน้าหรือแสดงความเขลา ไม่รู้เรื่อง
'ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่' - ต่างฝ่ายต่างก็รู้ความลับ ความไม่ดีของกันและกัน ไก่ไม่มีนม งูก็ไม่มีตีน เมื่อมองเห็นสิ่งที่ไม่เห็นของฝ่ายตรงข้าม จึงหมายถึงต่างฝ่ายต่างก็รู้ความลับของอีกฝ่ายหนึ่ง
ลายมือเหมือนไก่เขี่ย - เปรียบเทียบคนที่เขียนหนังสือหวัดลายมือยุ่ง เหยิงอ่านยากหรืออ่านไม่ออก
'ตัดหางปล่อยวัด' - ก็มีที่มาจากไก่เหมือนกัน หมายถึงการเลิกตัดขาดไม่เกี่ยวข้องกัน ในสมัยโบราณ ไก่เป็นสัตว์ที่ใช้ในการเซ่นสังเวยในพิธีสะเดาะเคราะห์ การเอาไก่ไปปล่อยเป็นการสะเดาะเคราะห์ ขับไล่สิ่งเลวร้ายไปกับไก่ ใน กฎมณเฑียรบาล มีว่า
"อนึ่ง วิวาทตบตีฟันแทงกันให้โลหิตตกในพระราชวังก็ดี และหญิงสาวใช้ทาษไทยผู้ใดคลอดแท้งลูกในพระราชวังก็ดี ท่านให้มันพลีวัง ท่านให้ตั้งโรงพิธีสี่ประตู...ไก่ประตูละคู่...นิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระพุทธมนต์สามวัน ให้หาชีพ่อพราหมณ์ซึ่งพลีกรรมมากระทำบวงสรวงตามธรรมเนียม...ครั้นเสร็จการพิธีแล้ว จึงให้เอาไก่นั้นไปปล่อยเสียนอกเมือง ให้พาเสนียดจัญไรไภยอุปัทว์ไปให้พ้นพระนครท่าน"
ไก่จึงต้องรับเคราะห์แทนคนที่ทำผิดพลาด ทำความเลวร้ายหรือมีเคราะห์กรรม การเอาไก่ไปปล่อยวัดก็เป็นการสะเดาะเคราะห์อีกวิธีหนึ่ง ใน ประกาศรัชกาลที่ 4 กล่าวถึง การนำไก่มาปล่อยวัดว่า "เมื่อคนที่มีศรัทธาคนถือการเสียเคราะห์ไก่เอาไก่ไปปล่อยวัดไม่ขาด" ก่อนจะปล่อยไก่ที่วัดจะต้องตัดหางไก่ก่อน หางของสัตว์เป็นส่วนสำคัญทำให้รูปงาม ถ้าขาดหางก็เสียโฉม ไก่ที่นำมาสะเดาะเคราะห์จึงต้องตัดหรือเด็ดหางไก่ให้ขาดแล้วจึงปล่อยไป ในเรื่อง อิเหนา พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 ตอนปันหยีชนไก่กับอุณากรรณ มีกลอนว่า
"สองฝ่ายให้น้ำสรรพเสร็จ เสียเคราะห์ทำเคล็ดเด็ดหาง
ดีดมือถือไก่เข้าไปวาง ในกลางสังเวียนสนามพลัน"
การเด็ดหางหรือตัดหางไก่แล้วปล่อยไป เป็นการสะเดาะเคราะห์ เป็นที่มาของสำนวน
'ตัดหางปล่อยวัด' - หมายความว่า ไม่เกี่ยวข้อง ไม่เป็นธุระ เมื่อพ่อแม่ใช้กับลูก หมายความว่า 'เลิก ไม่เลี้ยงดู' ไล่ออกจากบ้าน
ไก่รองบ่อน หรือไก่สำรองบ่อน - การเป็นตัวสำรอง
สถานที่ซึ่งจัดขึ้นเพื่อประลองความสามารถของไก่เรียกว่า "บ่อน" ก่อนชนจะต้องนำไก่มาเปรียบกันก่อน การเปรียบจะดูกันหลายอย่าง เช่น ขนาดตัว ข้อลำ น้ำหนัก และเดือย เป็นต้น ต้องดูว่าพอเหมาะพอสมกัน เจ้าของไก่จึงจะพอใจให้ไก่ชนกัน แต่ถ้าเปรียบแล้วหาคู่ชนไม่ได้ หากต้องการให้มีการแข่งขันก็อาจนำไก่ของทางบ่อนลงชน
ในการชนไก่ นอกจากไก่จะใช้ปากจิก ปีกกระพือตีกันแล้ว ยังมีการกระพือปีกยกตัวแล้วเอาหน้าแข้งตี อาวุธที่สำคัญคือ เดือยที่แข้งไก่ ซึ่งจะใช้แทงคู่ต่อสู้จนบาดเจ็บ ถ้าแทงถูกตาโดยตรงตาจะแตก ไก่ตัวที่ตาแตกมักยืนงง อาจจะเป็นเพราะมองไม่เห็น หรือเจ็บปวดบาดแผลที่ตาก็ตามแต่ จึงเกิดเป็นสำนวน
งงเป็นไก่ตาแตก - เปรียบเทียบกับอาการของคนที่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อตกอยู่ในสถาณการณ์ใดสถาณการณ์หนึ่ง เมื่อไก่ตาแตกบางครั้งก็จะมีการเย็บเปลือกตาให้บาดแผลปิด ไม่ให้ร่องแร่งเหวอะหวะ
การสู้เย็บตา - สู้จนถึงที่สุด ไม่ถอย ไม่ย่อท้อ ต่อมาสำนวนนี้ได้แปรมาเป็น สู้ยิบตา ในปัจจุบันจะได้ยินสำนวน "สู้ยิบตา" มากกว่า "การสู้เย็บตา" แบบดั้งเดิม
ไก่อ่อน - หมายถึงผู้อ่อนหัดยังไม่ชำนาญ ยังสู้เขาไม่ใคร่ได้
ไก่แก่แม่ปลาช่อน - ใช้เปรียบกับหญิงมีอายุที่ช่ำชอง มีมารยาเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ นานา สำนวนนี้ กาญจนา นาคพันธุ์ ได้สันนิษฐานไว้ว่า เดิมน่าจะเป็น กระต่ายแก่แม่ปลาช่อนเพราะมีกล่าวอยู่ในวรรณกรรมเก่าๆ หลายเรื่อง เช่น บทพระราชนิพนธ์คาวีในรัชกาลที่สองกล่าวไว้ว่า
"ไม่พอทีตีวัวกระทบคราด สัญชาติกระต่ายแก่แม่ปลาช่อน
แสร้งสบิ้งสะบัดตัดรอน จะช่วยสอนให้ดีก็มิเอา"
หรือในเรื่องพระอภัยมณีก็กล่าวว่า
" กระต่ายแก่แต่ละคนล้วนกลมาก ทั้งฝีปากเปรื่องปราชญ์ฉลาดเฉลียว"
น้ำลายไก่ - ไก่เป็นสัตว์ตัวเล็ก จึงเชื่อว่าไก่มีน้ำลายน้อยมาก น้อยเหลือเกิน คนโบราณจึงใช้สำนวนเปรียบว่าเท่าน้ำลายไก่
ไม่ใช่ขี้ไก่ - ขี้ไก่เป็นสิ่งที่คนเห็นกันทั่วไป เพราะไก่จะคุ้ยเขี่ยหากินตามพื้นดิน ขณะเดียวกันก็ถ่ายของเสียไปเรื่อยๆ ขี้ไก่มีขนาดไม่ใหญ่โต บางครั้งเมื่อคนเดินผ่านอาจไม่ทันสังเกตเห็นจึงเหยียบไปโดยไม่รู้ตัว สำนวน ไม่ใช่ขี้ไก่ จึงเกิดขึ้นหมายถึงไม่ใช่สิ่งที่เหยียบย่ำได้ง่ายๆ เหมือนขี้ไก่ ไม่ใช่สิ่งเลวทรามต่ำช้า ไม่ใช่สิ่งที่เลว จะถูกดูหมิ่นไม่ได้ง่ายๆ
ไก่ได้พลอย - ผู้ที่ไม่รู้จักคุณค่า หรือราคาของที่พบ
เจ้าชู้ไก่แจ้ - อาการของผู้ชายที่เกี้ยวผู้หญิงป้อไปมา เช่นไก่แจ้ที่เดินกรีดกรายป้อตัวเมีย
ซีดเป็นไก่ต้ม - เปรียบเทียบใบหน้าของผู้ที่ฟื้นจากไข้ หรือหวาดกลัว
ที่มา วารสารกรมประชาสัมพันธ์
ปีที่ ๑๑ ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๔๘
เนชั่นสุดสัปดาห์
พินิจไทย / ตรีศิลป์ บุญขจร สถาบันไทยศึกษา จุฬาฯ
**************************************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น