วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552

ก เอ๋ย ก ไก่

ทุกคนที่เริ่มเรียนภาษาไทย จะเริ่มจากการท่องจำตัวอักษร ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูก
คนไทยส่วนมากจะคุ้นเคยกับบทท่องจำ ก ไก่ ฉบับ ประชาช่างที่ท่องว่า

+++++++++ไก่ ของประเทศไทย ฉบับ ประชาช่าง
ก เอ๋ย ก ไก่ /ข ไข่ ในเล้า / ฃ ฃวด ของเรา / ค ควาย เข้านา
ฅ ฅน ขึงขัง / ฆ ระฆัง ข้างฝา /ง งู ใจกล้า / จ จาน ใช้ดี
ฉ ฉิ่ง ตีดัง / ช ช้าง วิ่งหนี / ซ โซ่ ล่ามที / ฌ กะเฌอ คู่กัน
ญ หญิง โสภา / ฎ ชฎา สวมพลัน / ฏ ปฏัก หุนหัน / ฐ ฐาน เข้ามารอง
ฑ นางมณโฑ หน้าขาว / ฒ ผู้เฒ่า เดินย่อง / ณ เณรไม่มอง / ด เด็ก ต้องนิมนต์
ต เต่า หลังตุง / ถ ถุง แบกขน / ท ทหาร อดทน / ธ ธง คนนิยม
น หนูขวักไขว่/ บ ใบไม้ ทับถม /ป ปลา ตากลม/ ผ ผึ้งทำรัง
ฝ ฝา ทนทาน/ พ พาน วางตั้ง/ ฟ ฟัน สะอาดจัง/ ภ สำเภา กางใบ
ม ม้า คึกคัก / ย ยักษ์ เขี้ยวใหญ่ / ร เรือ พายไป/ ล ลิง ไต่ราว
ว แหวน ลงยา / ศ ศาลาเงียบเหงา / ษ ฤษีหนวดยาว / ส เสือ ดาวคะนอง
ห หีบใส่ผ้า / ฬ จุฬา ท่าผยอง / อ อ่าง เนืองนอง / ฮ นกฮูกตาโต

ประเทศลาว มีภาษาและตัวอักษรเป็นของตนเองเช่นเดียวกับ
ไทยลาวก็มีบทท่องจำ ก-ฮ (ก ไก่ ถึง ฮ เฮือน)




++++++++++ก ไก่ ประเทศลาว

ก ไก่ /   ข ไข่ /    ค ควาย / ง งัว / จ จอก (แก้ว)
ส เสือ / ซ ซ้าง (ช้าง) / ญ ญุง (ยุง) / ด เด็ก
ต ตา / ถ ถง(ถุง) / ท ทง (ธง) / น นก
บ เบ้ (แพะ) / ป ปา (ปลา) / ผ เผิ้ง (ผึ้ง) / ฝ ฝน
พ พู (ภู)       / ฟ ไฟ           / ม แมว         / ย ยา
ล ลิง   / ว วี (พัด) / ห ห่าน / อ โอ่ง / ฮ เฮือน (บ้าน)

แถมท้ายอีกนิดนึง เคยอ่านเจอภาษาลาวบางคำ บางประโยค ที่ใช้ภาษาอย่างเรียบง่ายเข้าใจง่าย ใช้คำได้ตรงเรียกว่ามองเห็นภาพได้เลย จึงขอนำมาลงให้อ่านกันและด้วยความเคารพเป็นอย่างยิ่ง ผู้เขียนมิได้มีเจตนาลบหลู่ ทั้งภาษาและเจ้าของภาษาแต่อย่างใด



******ภาษาไทย *************ภาษาลาว

ไฟจราจรสีแดง****************ไฟอำนาจ(เราต้องหยุด)
ไฟจราจรสีเหลือง************* ไฟวัดดวง / ไฟลังเล
ไฟจราจรสีเขียว*************** ไฟอิสระ / ไฟสลายตัว
ผ้าเช็ดหน้า*******************ผ้าอนามัย
ผ้าอนามัย********************ผ้ายันต์กันโลหิต
ห้องคลอด********************ห้องประสูติ
ห้องฉุกเฉิน*******************ห้องมรสุม
ห้องผ่าตัด********************ห้องปาด
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด**********ผู้บัญชาการทหารสูงลิ่ว
ค่าตั๋ว(บัตรผ่านต่างๆ) ***********เสียค่าปี้
นางงาม********************** นางสังขาร
นางงามตกรอบ 20 คนสุดท้าย ****นางไม่เจียมสังขาร
นางงามตกรอบ 5 คนสุดท้าย******นางไม่เจียมกะลาหัว
ผัว /เมียหลวง******************ผัว /เมียถาวร
ผัว /เมียน้อย*******************ผัว /เมียบุญธรรม
ซุปเปอร์แมน(ภาพยนตร์)**********บักอึดถลาลม
รักจริงๆให้ดิ้นตาย(ภาพยนตร์)****** ฮักคักคัก ซักแหงกๆ
หนูน้อยพเนจร****************** บักหำน้อยตุหรัดตุเหร่(ทุลักทุเล)
จูราสสิคพาร์ค(ภาพยนตร์)********* กะปอมพยศ
ไททานิค(ภาพยนตร์) *************ชู้รักเรือล่ม
FACE OFF ********************หน้าข้อยอยู่ปู๊น หน้าเปิ้นอยู่นี่
SPEED************************เบรก บ่ อยู่
เชือดเชือดนิ่มนิ่ม****************ปาดปาดเนิบเนิบ
ร้านถ่ายรูป********************* ฮ้านแหกตา
ถ่ายรูปเดี่ยว******************** แหกตา
ถ่ายรูปหมู่**********************แหกตาสามัคคี
ระวัง (เตรียมตัว-แข่งกีฬา)******** โก่งดาก
เข้าที่(แข่งกีฬา) *****************เข้าซ่อง
ลูกฟุตบอล********************* ลูกเตะบาน
ลูกบาสเก็ตบอล***************** ลูกบานบ่วง
หลอดกาแฟ******************** ท่อดูด
ขนมปัง************************ ข้าวจี่
น้ำแข็ง************************ น้ำก้อน
หลอดฟลูออเรสเซนส์*************ข้าวหลามแจ้ง
รถไฟ************************** ห้องแถวไหล
เลี้ยวซ้าย/เลี้ยวขวา************** แหกซ้าย/แหกขัว
อร่อย************************* แซบ
JOHNY WALKER **************บักจอนย่าง
กระทรวงการต่างประเทศ***********กระทรวงพัวพันภายนอก
น้ำพุ***************************น้ำแตก

กกกกกกกกกกกก         กกกกกกกกกกกกกกกกก       กกกกกกกกกกกกกกกก



ธรรมะ
จากท่านพุทธทาส อินทปัญโญ



อาจารย์ไก่
ถ้าคนเราเปรียบเหมือนไก่ให้ดูดี มันไม่มีนอนไม่หลับไม่ปวดหัว
ไม่มีโรคประสาทประจำตัว โรคจิตไม่มากลั้วกับไก่น้อย
คนในโลกกินยาเป็นตันตัน พวกไก่มันไม่ต้องกินสักแต่น้อย
หลับสนิทจิตสบายร้อยทั้งร้อย รู้สึกน้อยแห้งน้ำใจอายไก่เวย
ได้เป็นคนหรือจึงได้นอนไม่หลับ ควรจะนับว่าเป็นบาปหรือบุญเหวย
มีธรรมะกันเสียนะอย่าละเลย อยู่เสบยไม่ละอายแก่ไก่มัน


คำกลอน ก ไก่



พระเทพวิสุทธิเมธี ป.ธ.9 (เจ้าคุณเที่ยง) เจ้าคณะภาค 11 วัดระฆังโฆสิตาราม

๐ เอ๊กอิเอเอ้กเสียงนี้มีความหมาย  เป็นจุดขายเงินตรามหาศาล
มันคือไก่ขุมทองของรัฐบาล         ยอดอาหารคู่โลกโภคภัณฑ์
กะต๊ากกะต๊ากแซ่เสียงแม่ไก่        ยามออกไข่ถ่ายฟองเป็นของขวัญ
ให้เราท่านทั่วถิ่นได้กินกัน            รสนิ่มมันทอดปรุงบำรุงพลัง
ไก่ธุรกิจทำเงินเกินคาดหมาย        เรื่องซื้อขายกำไรสมใจหวัง
เสี่ยโกเฮงซีพีเศรษฐีดัง               บ้านดุจวังเพราะขายไก่ได้ราคา
๐ เป็นเศรษฐีเพราะไก่สมใจนึก      ทุกคนคึกอยากรวยด้วยตัณหา
ปลูกโรงไก่เล้าไก่เต็มไร่นา            เป็นสินค้าขายออกทั้งนอกใน
ต่างคนต่างอยากรวยฉวยโอกาส      จิตหมายมาดมุ่งรับทรัพย์ลื่นไหล
เงินทองสะดวกโดยโกยกำไร          เศรษฐีไก่สมอยากบ่ยากเย็น
บางคนโง่ซื่อบื้อเรื่องซื้อขาย           พบฉิบหายฉับพลันทันตาเห็น
จนเพราะการค้าน้ำตากระเด็น          ช้ำลำเค็ญร้องว่าไก่ฆ่ากู
ไข้หวัดนกระบาดอนาถจิต              ไก่เกิดติดโรคร้ายตายจมหู
ถูกฝังเผาเป็นล้านบานตะกู              เป็ดห่านหมูเนื้ออร่อยพลอยล้มตาย
๐ โรคห่าล่าชีวิตให้ปลิดปลด           ไก่กำสรดอยู่ไปไร้ความหมาย
โรคแลคนรุมล่าฆ่าวอดวาย             ทารุณร้ายสุดอนาถชาติไก่เอย
ไก่กับคนผูกพันกันนานมา               ครั้งปู่ย่าเราท่านขานเฉลย
เห็นไก่อยู่กับไก่ไม่ห่างเลย              ทุกคนเคยเลี้ยงไก่กินไข่แดง
ไก่เป็นอาหารเป็นเพื่อนเตือนให้คิด     ขันสะกิดรับสุรีย์ทอสีแสง
จ้องดูเราดุจแม่พ่อคอตะแคง             คล้ายชี้แจงความเป็นมิตรนิจนิรันดร์
อรุณรุ่งเรืองรองท้องฟ้าใส                นกกาไก่เกาะกลุ่มชุมนุมขัน
บ้านหรือวัดเซ็งแซ่แต่ละวัน               สัตว์คู่ขวัญชีวิตจิตวิญญาณ
๐ มันมองเราเรามองมันด้วยหรรษา      คนเมตตาหยิบโปรยโรยอาหาร
มีของกินผลไม้ให้เป็นทาน                 ร้องเรียกขานคุ้นปากจากดวงใจ
สัตว์บ่เคยเป็นญาติกันนั้นบ่มี               พระชินสีห์ชี้แจงแถลงไข
ภพภูมิแห่งสงสารเนิ่นนานไกล            สัตว์เล็กใหญ่ล้วนญาติชาติผ่านมา
สันนิวาสเป็นญาติแต่ชาติก่อน             อดีตย้อนผูกใจใฝ่ปรารถนา
เกิดสำนึกมั่นหมายร่วมชายคา             แรงตัณหาอยากหวังฝังรูปนาม
๐ ฆ่าเป็ดกินเป็ดตายเกิดเป็นเป็ด           ผลชั่วเผล็ดร้องก๊าบบาปแห่หาม
เวรกรรมรุมประชิดรุกติดตาม                คอยคุกคามเข่นฆ่าน้ำตานอง
คนฆ่าไก่กินไก่เกิดเป็นไก่                    บาปล่าไล่สู่ปูมภูมิสยอง
เกิดตายเท่าขนไก่ไร้ต่อรอง                  ฆ่าหมูต้องเป็นหมูคู่เวรกัน
เกิดเป็นหมูหมากาไก่ให้ประโยชน์          แต่ทุกข์โทษคุกคามนามรูปขันธ์
ยิ่งเกิดยิ่งพอกโง่จมโลกันต์                   บาปโมหันธ์มืดมิดปิดทางเดิน
สมองหมูหมากาไก่ไร้คุณภาพ                แต่เอิบอาบด้วยคลื่นเบาตื้นเขิน
ขาดสติยับยั้งพลังเกิน                         งมงายเพลินโลกแล่นแดนอบาย…….
๐ จุติสู่ภพภูมิปูมนรก                           ดุจดาวตกพุ่งลับแสงดับหาย
มืดมิดมหัศจรรย์สุดบรรยาย                  ยมทูตร้ายล้อมรุมอุ้มแห่ไป
ต้องทนทุกข์ทรมานเนิ่นนานช้า              มิรู้ว่าสุดกู่อยู่หนไหน?
คุกนรกสุดสยองล้วนกองไฟ                  ร่างเผาไหม้เกิดใหม่ใช้โทษทัณฑ์
มรสุมเวรกรรมกระหน่ำหนัก                   ภูติผีทักหมาเห่าเขย่าขวัญ
วิญญาณไก่เป็ดห่านขานพร้อมกัน           เซ็งแซ่ลั่นโจทก์จี้ทวงหนี้บุญ
ญาติปู่ย่าตายายที่ตายไป                      เกิดเป็นไก่หมาหมูอยู่ใต้ถุน
ผลวิบากกรรมโหดโทษทารุณ                 ลูกหลานขุ่นฆ่าขายหมายเงินทอง
๐ อันเวรกรรมทำไว้ในไตรจักร์                เบาหรือหนักพอกพูนคูณสนอง
ปราศจากมิตรศัตรูผู้ปกครอง                  คอยจับจ้องล้างผลาญสถานเดียว
กรรมที่สร้างไว้เสร็จสำเร็จผล                 ควบคุมคนผู้สร้างอย่างแน่นเหนียว
อยู่ทิศไหน?เคียงข้างไม่ห่างเชียว            เกาะกุมเกี่ยวแสดงผลให้ยลยิน
พลังเวรพลังกรรมทรงอำนาจ                 ไม่คลาคลาดตามติดนิจสิน
ถึงเวลารุกถล่มร่างจมดิน                       ไม่สุดสิ้นชาติภพจบไม่เป็น
ยุติคำกลอนเรื่องไก่ไว้เท่านี้                    ขอน้องพี่ทั้งหลายคลายทุกข์เข็ญ
พ้นจากความอดอยากยากลำเค็ญ            ได้พบเห็นพวกไก่ให้เมตตา ฯ…….
(จาก นสพ.ธรรมะ สาส์นสวรรค์ ประจำวันที่ 1-30 เมษายน 2547)


นิทานธรรม ก ไก่

ไก่โต้งเสียงดี
ขโมยคนหนึ่งย่องเข้าไปในบ้านหลังหนึ่ง แต่ขโมยอะไรไม่ได้
พอดีเหลือบไปเห็นไก่โต้งตัวหนึ่ง จึงจับไก่ตัวนั้นติดมือมาหมายจะฆ่ากิน
ไก่โต้งร้องขอชีวิตจากขโมยว่า
โปรดไว้ชีวิตฉันเถิด ฉันเป็นสัตว์ที่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ ทุก ๆ เช้า

ฉันจะขันปลุกมนุษย์ให้ตื่นขึ้นทำงาน
เจ้าหัวขโมยได้ยินไก่โต้งพูดเช่นนี้ ก็โกรธมาก กล่าวว่า
ก็เพราะแกปากโป้ง ชอบขันปลุกชาวบ้าน ฉันจึงขโมยอะไรไม่ได้นะสิ

 เพราะฉะนั้น ฉันจะต้องเชือดแกทิ้งเสีย

จาก หนังสือนิทานเตือนสติ






นิทานดาวลูกไก่

นิทานดาวลูกไก่ในตำนานไทยเล่าว่า มีตายายคู่หนึ่งอาศัยอยู่ในป่า วันหนึ่งมีพระธุดงค์ผ่านมา คิดจะหาอาหารไปถวาย แต่เนื่องจากอยู่ในป่าไม่มีอาหารดีๆ จึงหารือกันจะฆ่าไก่ที่เลี้ยงไว้เพื่อไปทำอาหารถวาย แม่ไก่ได้ยินก็สั่งเสียลูกไก่ทั้งหกตัวให้รักษาตัวให้ดี ตัวเองต้องแทนคุณตายายที่เลี้ยงดูมา เมื่อถึงเวลาตายายฆ่าแม่ไก่ ลูกไก่ก็กระโดดเข้าเตาไฟตายตามแม่ไปด้วย เทพยดาเห็นแก่ความกตัญญู จึงให้แม่ไก่และลูกไก่ทั้งหมดขึ้นไปเป็นดาวอยู่บนฟ้าเพื่อเตือนใจคน




สำนวนเกี่ยวกับไก่



ไก่เป็นสัตว์ที่คนคุ้นเคยมาช้านาน หากพิจารณาสำนวนในภาษาต่างๆ ทั่วโลกจะมีสำนวนที่เกี่ยวกับไก่อยู่ในภาษาต่างๆ ทุกภาษา ซึ่งให้แง่คิด สอนใจ เตือนใจ หรืออาจจะถึงขั้น 'เตะใจ' ใครบางคนได้ เรื่องของไก่จึงไม่ใช่เรื่องของไก่เท่านั้น แต่เป็นเรื่องของคนเสียมากกว่า

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง           -  หมายถึงคนจะงามต้องอาศัยการแต่งด้วย
'ไก่ขัน' หรือ 'ไก่โห่'                                   -   แปลว่า เวลารุ่งสาง บางทีก็ใช้ว่า หัวไก่โห่   เช่นใช้ว่า 'ตื่นมาตั้งแต่ ไก่โห่' สำนวนนี้มีที่มาจากธรรมชาติของไก่ที่ต้องขันตั้งแต่ฟ้าเริ่มสาง
ไก่ขึ้นรัง'                                                    - วิธีเลี้ยงไก่ของคนไทยสมัยก่อน ปล่อยให้ไก่อยู่ตามพื้นดิน เดินหาอาหาร พอตกเย็นไก่ก็บินขึ้นไปนอนบนที่สูง ซึ่งอาจจะเป็นรังบนต้นไม้ ไก่ซึ่งถือแสงอาทิตย์เป็นสำคัญ เมื่อพลบค่ำ ก็สำนวน บินขึ้นรัง
'ไก่ขึ้นรัง' จึงหมายถึงเวลาพลบค่ำหรือย่ำค่ำ

เรื่องไก่กับการบอกเวลา ยังมีสำนวนที่มีที่มาจาก นิทานเชียงเมี่ยง หรือศรีธนญไชย ดังเช่น สำนวน

'มาก่อนไก่' หรือ 'เอาไก่ผูกก้นมา'              - การมาสาย ในเรื่องศรีธนญไชยตื่นสาย มาเข้าเฝ้าไม่ทัน แต่ศรีธนญไชยกราบทูลว่าไม่ได้มาสาย แต่มา 'ก่อนไก่' แล้ว คือเอาไก่ผูกก้นลากตามมา เมื่อจะพูดถึงผู้มาสายจึงพูดว่า 'เอาไก่ผูกก้นมาหรือเปล่า'

สมภารกินไก่วัด                                          - ได้หญิงในปกครองเป็นภรรยา
'ไก่กินข้าวเปลือก'                                       - การกินสินบน โดยเปรียบว่าตราบใดที่ไก่กินข้าวเปลือก ตราบนั้นคน (บางอาชีพ) ก็ยังคงกินสินบนอยู่ตราบนั้น

ไก่บินไม่ตก                                                 - เป็นการกล่าวถึงบริเวณที่ปลูกบ้านกันอย่างหนาแน่นหลังคาบ้านแต่ละหลังชนกัน เกยกัน จนไก่ ซึ่งบินได้ในระยะสั้นๆ ก็ยังบินไม่ตก

'เป็ดขันประชันไก่'                                      
- สำนวนนี้เปรียบไก่กับเป็ดในแง่การขัน เป็ดโดยธรรมชาติขันไม่ได้ ถ้านำมาขันแข่งกับไก่ก็สู้ไม่ได้แน่นอน จึงเป็นสำนวนเปรียบเทียบว่าเมื่อไม่สามารถหาผู้ที่ดีมีความสามารถได้ก็ต้องเอาผู้ที่ด้อยหรือไม่มีความสามารถมาแทน หรือหมายความว่าเอาผู้ที่รู้ว่าด้อย ไม่มีความสามารถ ไม่เก่ง มาแข่งหรือประชันกับคนดีหรือคนมีความสามารถ เมื่อหาไก่ไม่ได้ก็ต้องใช้เป็ดแทน

'ปล่อยไก่'                                                   - แสดงความโง่เซ่อ เขลา เช่น 'ปล่อยไก่ตัว เบ้อเร่อ' คือ ทำเรื่องขายหน้าหรือแสดงความเขลา ไม่รู้เรื่อง

'ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่'                             - ต่างฝ่ายต่างก็รู้ความลับ ความไม่ดีของกันและกัน ไก่ไม่มีนม งูก็ไม่มีตีน เมื่อมองเห็นสิ่งที่ไม่เห็นของฝ่ายตรงข้าม จึงหมายถึงต่างฝ่ายต่างก็รู้ความลับของอีกฝ่ายหนึ่ง

ลายมือเหมือนไก่เขี่ย                                  - เปรียบเทียบคนที่เขียนหนังสือหวัดลายมือยุ่ง เหยิงอ่านยากหรืออ่านไม่ออก

'ตัดหางปล่อยวัด'                                         - ก็มีที่มาจากไก่เหมือนกัน หมายถึงการเลิกตัดขาดไม่เกี่ยวข้องกัน ในสมัยโบราณ ไก่เป็นสัตว์ที่ใช้ในการเซ่นสังเวยในพิธีสะเดาะเคราะห์ การเอาไก่ไปปล่อยเป็นการสะเดาะเคราะห์ ขับไล่สิ่งเลวร้ายไปกับไก่ ใน กฎมณเฑียรบาล มีว่า

"อนึ่ง วิวาทตบตีฟันแทงกันให้โลหิตตกในพระราชวังก็ดี และหญิงสาวใช้ทาษไทยผู้ใดคลอดแท้งลูกในพระราชวังก็ดี ท่านให้มันพลีวัง ท่านให้ตั้งโรงพิธีสี่ประตู...ไก่ประตูละคู่...นิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระพุทธมนต์สามวัน ให้หาชีพ่อพราหมณ์ซึ่งพลีกรรมมากระทำบวงสรวงตามธรรมเนียม...ครั้นเสร็จการพิธีแล้ว จึงให้เอาไก่นั้นไปปล่อยเสียนอกเมือง ให้พาเสนียดจัญไรไภยอุปัทว์ไปให้พ้นพระนครท่าน"

ไก่จึงต้องรับเคราะห์แทนคนที่ทำผิดพลาด ทำความเลวร้ายหรือมีเคราะห์กรรม การเอาไก่ไปปล่อยวัดก็เป็นการสะเดาะเคราะห์อีกวิธีหนึ่ง ใน ประกาศรัชกาลที่ 4 กล่าวถึง การนำไก่มาปล่อยวัดว่า "เมื่อคนที่มีศรัทธาคนถือการเสียเคราะห์ไก่เอาไก่ไปปล่อยวัดไม่ขาด" ก่อนจะปล่อยไก่ที่วัดจะต้องตัดหางไก่ก่อน หางของสัตว์เป็นส่วนสำคัญทำให้รูปงาม ถ้าขาดหางก็เสียโฉม ไก่ที่นำมาสะเดาะเคราะห์จึงต้องตัดหรือเด็ดหางไก่ให้ขาดแล้วจึงปล่อยไป ในเรื่อง อิเหนา พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 2 ตอนปันหยีชนไก่กับอุณากรรณ มีกลอนว่า


"สองฝ่ายให้น้ำสรรพเสร็จ เสียเคราะห์ทำเคล็ดเด็ดหาง
ดีดมือถือไก่เข้าไปวาง ในกลางสังเวียนสนามพลัน"


การเด็ดหางหรือตัดหางไก่แล้วปล่อยไป เป็นการสะเดาะเคราะห์ เป็นที่มาของสำนวน
'ตัดหางปล่อยวัด'                           - หมายความว่า ไม่เกี่ยวข้อง ไม่เป็นธุระ เมื่อพ่อแม่ใช้กับลูก หมายความว่า 'เลิก ไม่เลี้ยงดู' ไล่ออกจากบ้าน

ไก่รองบ่อน หรือไก่สำรองบ่อน      - การเป็นตัวสำรอง
สถานที่ซึ่งจัดขึ้นเพื่อประลองความสามารถของไก่เรียกว่า "บ่อน" ก่อนชนจะต้องนำไก่มาเปรียบกันก่อน การเปรียบจะดูกันหลายอย่าง เช่น ขนาดตัว ข้อลำ น้ำหนัก และเดือย เป็นต้น ต้องดูว่าพอเหมาะพอสมกัน เจ้าของไก่จึงจะพอใจให้ไก่ชนกัน แต่ถ้าเปรียบแล้วหาคู่ชนไม่ได้ หากต้องการให้มีการแข่งขันก็อาจนำไก่ของทางบ่อนลงชน
ในการชนไก่ นอกจากไก่จะใช้ปากจิก ปีกกระพือตีกันแล้ว ยังมีการกระพือปีกยกตัวแล้วเอาหน้าแข้งตี อาวุธที่สำคัญคือ เดือยที่แข้งไก่ ซึ่งจะใช้แทงคู่ต่อสู้จนบาดเจ็บ ถ้าแทงถูกตาโดยตรงตาจะแตก ไก่ตัวที่ตาแตกมักยืนงง อาจจะเป็นเพราะมองไม่เห็น หรือเจ็บปวดบาดแผลที่ตาก็ตามแต่ จึงเกิดเป็นสำนวน
งงเป็นไก่ตาแตก                           - เปรียบเทียบกับอาการของคนที่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อตกอยู่ในสถาณการณ์ใดสถาณการณ์หนึ่ง เมื่อไก่ตาแตกบางครั้งก็จะมีการเย็บเปลือกตาให้บาดแผลปิด ไม่ให้ร่องแร่งเหวอะหวะ
การสู้เย็บตา                                 - สู้จนถึงที่สุด ไม่ถอย ไม่ย่อท้อ ต่อมาสำนวนนี้ได้แปรมาเป็น สู้ยิบตา ในปัจจุบันจะได้ยินสำนวน "สู้ยิบตา" มากกว่า "การสู้เย็บตา" แบบดั้งเดิม

ไก่อ่อน                                        - หมายถึงผู้อ่อนหัดยังไม่ชำนาญ ยังสู้เขาไม่ใคร่ได้

ไก่แก่แม่ปลาช่อน                        - ใช้เปรียบกับหญิงมีอายุที่ช่ำชอง มีมารยาเล่ห์เหลี่ยมต่างๆ นานา สำนวนนี้ กาญจนา นาคพันธุ์ ได้สันนิษฐานไว้ว่า เดิมน่าจะเป็น กระต่ายแก่แม่ปลาช่อนเพราะมีกล่าวอยู่ในวรรณกรรมเก่าๆ หลายเรื่อง เช่น บทพระราชนิพนธ์คาวีในรัชกาลที่สองกล่าวไว้ว่า

 "ไม่พอทีตีวัวกระทบคราด                สัญชาติกระต่ายแก่แม่ปลาช่อน
 แสร้งสบิ้งสะบัดตัดรอน                   จะช่วยสอนให้ดีก็มิเอา" 
หรือในเรื่องพระอภัยมณีก็กล่าวว่า
" กระต่ายแก่แต่ละคนล้วนกลมาก     ทั้งฝีปากเปรื่องปราชญ์ฉลาดเฉลียว"

น้ำลายไก่                                      - ไก่เป็นสัตว์ตัวเล็ก จึงเชื่อว่าไก่มีน้ำลายน้อยมาก น้อยเหลือเกิน คนโบราณจึงใช้สำนวนเปรียบว่าเท่าน้ำลายไก่


ไม่ใช่ขี้ไก่                                      - ขี้ไก่เป็นสิ่งที่คนเห็นกันทั่วไป เพราะไก่จะคุ้ยเขี่ยหากินตามพื้นดิน ขณะเดียวกันก็ถ่ายของเสียไปเรื่อยๆ ขี้ไก่มีขนาดไม่ใหญ่โต บางครั้งเมื่อคนเดินผ่านอาจไม่ทันสังเกตเห็นจึงเหยียบไปโดยไม่รู้ตัว สำนวน ไม่ใช่ขี้ไก่ จึงเกิดขึ้นหมายถึงไม่ใช่สิ่งที่เหยียบย่ำได้ง่ายๆ เหมือนขี้ไก่ ไม่ใช่สิ่งเลวทรามต่ำช้า ไม่ใช่สิ่งที่เลว จะถูกดูหมิ่นไม่ได้ง่ายๆ

ไก่ได้พลอย                                   - ผู้ที่ไม่รู้จักคุณค่า หรือราคาของที่พบ

เจ้าชู้ไก่แจ้                                     - อาการของผู้ชายที่เกี้ยวผู้หญิงป้อไปมา เช่นไก่แจ้ที่เดินกรีดกรายป้อตัวเมีย

ซีดเป็นไก่ต้ม                                  -  เปรียบเทียบใบหน้าของผู้ที่ฟื้นจากไข้ หรือหวาดกลัว


ที่มา    วารสารกรมประชาสัมพันธ์

            ปีที่ ๑๑ ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๔๘

            เนชั่นสุดสัปดาห์

            พินิจไทย / ตรีศิลป์ บุญขจร สถาบันไทยศึกษา จุฬาฯ



**************************************************************************

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น